Monday 21 March 2011

สุดสัปดาห์ในปารีส

เพราะค่าตั๋วเครื่องบินที่ถูก เลยบินไปเที่ยวฝรั่งเศสช่วงสุดสัปดาห์ ๒ วัน ๑ คืน ออกเดินทางจากเบอร์ลินถึงปารีส ๙.๓๐ และกลับวันถัดมา ๒๑.๓๐ แหมอาจจะไม่มีเวลามาก แต่ก็เที่ยวแบบเต็มที่

ทริปนี้เที่ยวคนเดียวตามเคย สำหรับผู้หญิง เที่ยวคนเดียว ก็ระวังตัวหน่อยเป็นปกติ แหมปารีสจะเป็นเมืองที่ดูสวยงาม ชวนฝันของใครต่อใคร แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยนักตามที่อ่านๆมา เรื่องที่ต้องระวัง ก็คงเหมือนกับเมืองท่องเที่ยวใหญ่

พวกมิจฉาชีพ กระเป๋าถือ ควรไว้หน้าตัว อย่าสะพายข้างๆ ถ้าเป้สะพายก็อย่าเอาของสำคัญไว้ในเป้  เวลานั่งรถไฟใต้ดิน ถ้าเป็นเวลากลางคืน (ซึ่งปกติ ก็ควรหลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืนอยู่แล้ว)  อย่านั่งใกล้ประตูทางออกนัก เพราะบางทีเวลาประตูใกล้ปิด เขาจะกระชากกระเป๋าแล้ววิ่งลงรถไป  หรืออย่าใช้โทรศัพท์ คิดว่าคงไม่ได้โทรไปไหน แต่คงเอามากดเล่นเกมส์ ฟังเพลง ก็ระวังไว้หน่อย โดนวิ่งราวได้เหมือนกัน

พอได้ใช้สถานีรถไฟใต้ดิน รู้สึกได้ทันทีว่ามันดูไม่ค่อยปลอยภัยนัก อาจจะด้วยสภาพที่ค่อนข้างเก่า มีการขีดเขียนตามผนัง หรือบางสถานีก็เหม็นกลิ่นฉี่   แล้วทางเดินที่คดเคียวบาง ไกลบาง ยิ่งเวลาจะเปลี่ยนสายรถ  แหมจะมีกล้องวงจรปิด แต่ท่าเกิดอะไรขึ้น บางทีเขาอาจจะช่วยเราไม่ทัน

อ่านรีวิวต่างๆ เริ่มระแวงนิดๆกับการไปเที่ยวปารีสครั้งนี้ แต่ถ้าเรามัวระแวง การเที่ยวเราก็จะไม่สนุก ก็แค่ระวังตัวไว้หน่อย


 เริ่มเที่ยววันแรก

การเดินทาง
จากสนามบิน Orly  ตั้งใจว่าจะซื้อตั๋ว paris visitor pass แต่ที่สนามบินกับไม่มีขายมี สามโซน ไม่รู้ว่าทำไม ซึ่งทำให้ต้องมาซื้อที่ Antony ซึ่งถ้าจะมาที่สถานีนี้โดยใช้  Only val ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าของสนามบินก็เสียอีกประมาณเจ็ดยูโร แพงเอาเรื่องทีเดียว ถ้าซื้อตั๋วทราเวลพาสได้ สำหรับหนึ่งวันจะเพียงแค่สิบกว่ายูโร และรวมค่าเดินทางต่อสนามบินด้วย  มาถึงAnthony ก็ต้องออกจากเกทเพื่อไปซื้อตั๋ว ตอนแรกตั้งใจว่าจจะซื้อตั๋ว  สามโซน หนึ่งวัน และก็หกโซนหนึ่งวัน  แต่ราคาหกโซนสองวันแพงกว่าหนึ่งยูโร ก็เลยเอาน่ะ แพงกว่านิดหน่อย เพราะไม่ได้วางแผนมาว่าจะเที่ยวไหน วันไหน เอาเรื่อยๆ ได้ไม่ต้องกังวลเรื่องตั๋ว ก็เลยเอาตั๋วหกโซน สำหรับสองวัน ราคาประมาณ ๒๙ ยูโร  ถ้าเป็นตัวสามโซนจะแค่ประมาณ ๑๙ ยูโร

ดูเรื่องตั๋วแบบต่างๆ
http://www.ratp.fr/en/ratp/c_21879/tourists/

ดูจากเวปของการเดินทางในฝรั่งเศสจะถูกกว่า สั่งซื้อกับทาง raileuro
http://www.raileurope.com/activities/paris-visite/index.html?WT.mc_id=CJ.paris_visite.affiliates


สนามบิน อาจต้องดูให้ดีว่าสนามบินไหน เวลาเดินทางมาขึ้นเครื่องจะได้ไม่ผิด และ terminal ไหนด้วย เพราะอย่าง Orly มีสอง terminal  Orly Sud (south) กับ Orly Ouest (west) ขากลับก็ไปผิดเหมือนกัน รอเวลาเชคอิน บอร์ดเวลาเครื่องออกของที่อื่นๆก็ขึ้นแล้ว แต่ไม่มีที่เราจะกลับ เอ๋ หรือเราจองวันผิด แถมทำใบจองออนไลน์หายอีก  เลยต้องไปถามประชาสัมพันธ์ ดีที่มันไม่ไกลกันมาก แล้วก็มาล่วงหน้านานพอควร  


เริ่มต้นด้วย Rudin museum  ไปเดินชมงานศิลปะ โดยซื้อตั๋ว museum pass แบบสองวัน 35 ยูโร



งานที่เป็นที่รู้จัก the thinker , the kiss

จากนั้นเดินไปที่ Dome des Invalides และดู military museum ถ้าเดินออกทางด้านพิพิธภัณฑ์  มองไปก็จะเห็นเหมือนสนามหญ้ากว้าง ไกลๆมีสะพาน ที่มีรูปปั้นตกแต่ง ถ้าเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็ไม่ไกลมาก ข้ามสะพานไปก็จะเป็น Petit Palais กับ Gland Palais จากนั้นก็  ave des champs elysees แหล่งชอปปิ้งนั้นเอง





ถ้าออกมาทางนี้
 แล้วเดินไปเรื่อยๆ ตามนี้ก็จะถึง champs elysees
  

 หลังเดินชม window shopping กันจนเมื่อย เพราะเดินทั้งสองฝั่งของถนน  เพื่อจะตามหาร้าน longchamp ที่เพื่อนฝากซื้อกระเป๋า ตัวเองก็ไม่เคยซื้อของแบรนด์พวกนี้ซะด้วย คิดว่ามาเดินแถวนี้น่าจะเจอร้านบ้างก็ไม่เห็น  ก็เลยเอาไว้ก่อนละกัน แล้วก็นั่งรถไปชมหอไอเฟล 



เดินเที่ยวจนเหนื่อย ตั้งแต่มาถึงจนบ่ายสาม ก็เห็นทีต้องเข้าโรงแรมเชคอินกันก่อน ขอพักสักนิดก่อนออกมาต่อ และเชคว่าร้าน longchamp มันอยู่ตรงไหน คราวนี้จองที่ L'Hotel de Mericourt ค่าห้องประมาณ 2700 ห้องพัก กับห้องน้ำ อาจจะเล็กไปหน่อยแต่ก็สะดวกดี  และมีอาหารเช้า และ ฟรี wifi   ไม่มีแอร์ แต่ไปช่วงหน้าหนาวไม่มีปัญหา แต่หน้าร้อนนี่ไม่แน่ใจ 

ช่วงเย็นไปต่อที่ St sulpice เพื่อไปซื้อกระเป๋าให้เพื่อน เพราะไม่แน่ใจว่าส่วนว่าวันอาทิตย์ร้านจะเปิดปล่าว (ยุโรป วันอาทิตย์ส่วนใหญ่จะปิด) และเดินดูโบสถ์ suipice และไปที่ luxembourg แต่เพราะไปเย็นมาก  สวนเขาเลยปิดแล้ว น่าเสียดาย จากนั้นก็กลับที่พัก หมดแรงสำหรับวันนี้


วันที่สอง ตื่นมาไปกินข้าวเช้า มีขนมปังสามชิ้น น้ำส้ม และเครื่องดื่มอื่นๆ แต่เช้านี้ขอดื่มชอคโกแลตร้อน จากนั้นก็เชคเอาท์ แปดโมง แบกเป้เที่ยวต่อ

ไปที่ Montmartre เพราะเชื่อตามหนังสือแนะนำเส้นทางเดิน เลยไปลงที่ lamarck caulaincourt เล่นเอาเดินซะเหนื่อยกว่าจะขึ้นถึงโบสถ์ ทั้งที่มีสถานี anvers ซึ่งใกล้กว่า  

จากนั้นกลับมาที่นอสเทอดาม   เนื่องด้วยเป็นวันอาทิตย์เช้า เข้าฟรี เพราะคนไปโบสถ์ตอนเช้า  และได้ดูด้วยว่าเขาทำอะไรกันบ้าง พร้อมฟังร้องประสานเสียง




 ต่อด้วย พิพิธภัณฑ์ลูฟ อันนี้เดินนาน หลายชม.ทีเดียวว ชมงานไปเรื่อยๆ


 
ปิดท้ายด้วยอากาศดีๆ ของวันส่งท้าย ด้วยไปสวนที่เมื่อวานปิด  ที่ luxembourge

No comments:

Post a Comment