Sunday 28 November 2010

Christmas market @ Erfurt

เที่ยววันเดียวสบายๆ กับตลาดคริสท์มาสที่ Erfurt จาก Halle ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่ง ค่าท่องเทียววันนี้ค่อนข้างถูก รวมไกด์ทัว และค่ารถไฟ แค่ ๑๒ ยูโร เพราะไปเป็นกลุ่มใหญ่

เดินทางมาถึงประมาณ 10:00 ก็นั่งรถรางสมัยเก่าชมเมืองชั่วโมงครึ่ง ก่อนเดินทัวน์อีกประมาณชั่วโมง เวลาที่เหลือหลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จประมาณบ่ายสอง ก็แยกย้ายกันเที่ยว ตามอัธยาศัยก่อนมารวมตัวกันนั่งรถกลับเวลา ๑๘.๒๒











รถรางสมัยก่อน สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1894  ถูกนำมาใช้เป็นรถรางชมเมือง 
อากาศวันนี้ประมาณ -3 แต่ด้วยรถที่เปิดทั้งฮีทเตอร์ และคนเยอะ เล่นเอาร้อน อึกอัดกันพอควร จนต้องปิดฮีทเตอร์


เมือง Erfurt เป็นเมืองหลวงของรัฐ Thuringia (Thüringen) ด้วยเมืองที่อยู่ตรงกลางประเทศพอดี ก็เลยเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้า และการเดินทัพแต่เดิม  จะมีถนน  Via Regia  ซึ่งเป็นเส้นทางจากตะวันตก ถึงตะวันออก (จาก Paris ถึง Novgorod)   และถนน Nuremberg Geleitstrasse เส้นทางภาคเหนือ ถึงตอนใต้ เชื่อมระหว่าง Northern Germany กับ Italy

เมือง Erfurt เป็นต้นกำเนิดสีน้ำเงิน blue dye ซึ่งมาจากพืช woad ตามที่ไกด์บอกมันมีลักษณะคล้ายๆ rapeseed ซึ่งแต่เดิมพืชชนิดนี้จะปลูกและรดน้ำด้วยปัสสาวะของผู้ชาย 

แต่เดิมเมืองนี้ได้ชื่อว่า the city of flower ( ega Cyriaksburg) ซึ่งมีชื่อมากในการส่งออกเมล็ดพันธ์ดอกไม้  จะเห็นได้จากชื่อถนนบางสายก็จะตั้งตามชื่อดอกไม้ (อย่าง rose พอดีว่าภาษาเยอรมันอันนี้เหมือนภาษาอังกฤษก็เลยจำได้)   และในทุกปีจะมีงานแสดงดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ แต่ไปตอนหน้าหนาวอย่างนี้ก็คงบอกไม่ได้ว่าจะงามแค่ไหน  จะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ ชื่อ ega ถ้าใครไปเที่ยวเมืองนี้หน้าร้อน ก็ไม่ควรพลาดไปชม



ภาพวิวจากบนรถราง  ย่านบ้านสมัยใหม่




 ที่ว่าการเมือง ถ้าไม่ดูดีๆจะไม่รู้ว่าแต่เดิมเป็นอาคารสองอาคาร ส่วนตรงกลางเพิ่งสร้างขึ้นมา ถ้าสังเกตดีจะเห็นว่าด้านซ้ายเป็นศิลปะเรเนซอง ส่วนด้านขวาเป็นบารอค ซึ่งสองอาคารอายุต่างกันถึงหลายร้อยปีทีเดียว

เมือง Erfort น่าเที่ยว สามารถเดินชมเมืองไปเรื่อย เพียงไปเอาแผนที่ ที่ information center ก่อน หรือจะเดินชิวๆไม่สนใจ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงนอกจากสถาปัตยกรรม ก็คงไม่พ้นช้อปปิ้ง ซึ่งมีร้านค้า แบรนด์ที่พบในเยอรมันทั่วไปให้เห็น  เดินช้อปได้อย่างเพลิดเพลิน 


ส่วนที่เที่ยวหลัก ที่เป็นที่รู้จัก


สะพาน Krämerbrücke (Merchant's Bridge)  ซึ่งมีแต่บ้าน และร้านค้าบนสะพานเต็มไปหมด ถ้าไม่สังเกตก็คงไม่รู้

  
Mariendom Cathedral (left) and St. Severus church (right)

  แต่เป้าหมายของเราวันนี้ คือ christmas market  ซึ่งจะจัดตรงหน้าโบสถ์ นอกจากเดินชมเมือง แล้วกลับมาเที่ยวชมสินค้า และชิมขนม และไวน์ เบียร์  สำหรับของกินพิเศษช่วงคริสต์มาส  ที่มีหลายร้านมากมายที่ขาย ก็คือ Glühwein  หรือไวน์ร้อนนั้นเอง  ราคาอยู่ประมาณแก้วละ ๒ ยูโร   ส่วนใครที่จะซื้อเค้กสำหรับคริสต์มาสก็ต้องเป็น Stollen cake จะมีพวกผลไม้แห้งผสมในเนื้อเค้ก และก็โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่ง 




 ความจริงมีรูป และรายละเอียดเมืองมากกว่านี้ แต่เห็นที่ต้องไปอ่านหนังสือบ้างแล้ว  ดูรูปคงพอกระตุ้นให้ใครอยากมาเยี่ยมชมเมืองนี้บ้างแหละนะ







No comments:

Post a Comment